ลดน้ำหนัก โดยหลักการคือ ไม่ทานยาลดน้ำหนัก ไม่อดอาหาร ออกกำลังกาย และปฏิบัติตนอย่างถูกวิธี ลองปฏิบัติตามข้อแนะนำ 11 วิธีของการลดน้ำหนักอย่างถูกต้องอย่างครบถ้วน รับรองว่าจะสามารถลดน้ำหนักลงได้โดยที่ไม่ทำให้โยโย่ขึ้นอย่างแน่นอน
- ต้องทานอาหารให้ครบ 3 มื้อในทุกๆวัน เพราะการทานอาหารให้ครบ 3 มื้อจะทำให้ร่างกายเราสามารถรักษาระดับการเผาผลาญพลังงานได้อย่างสม่ำเสมอ
- ทานอาหารให้ได้พลังงานประมาณ 1,000 – 1,200 กิโลแคลอรี ยืดหยุ่นได้ แต่ห้ามต่ำกว่า 800 กิโลแคลอรี เพื่อไม่ให้ระดับการเผาผลาญพลังงานของร่างกายลดต่ำลง
- ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพราะหากขาดอาหารหมู่ใดหมู่หนึ่ง จะทำให้เรารู้สึกหิวได้ง่าย ทำให้ลดน้ำหนักได้ยากขึ้น และจะทำให้มีปัญหาสุขภาพได้
- ทานโปรตีนให้เพียงพอ โดยทานโปรตีน 1.0 กรัม/น้ำหนัก 1 กิโลกรัม เพื่อให้น้ำหนักที่ลดลงเป็นไขมันไม่ใช่กล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยรักษาระดับการเผาผลาญให้คงที่ หรือช่วยปรับระดับการเผาผลาญที่เสียไปให้ดีขี้น ทำให้เมื่อเราหยุดลดน้ำหนัก น้ำหนักจะไม่เพิ่มขึ้น
- สัดส่วนพลังงาน จากโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ที่ได้จากอาหารโดย ประมาณ 30/50/20
- หลีกเลี่ยงอาหารมันและอาหารที่ใช้น้ำมันในการปรุงอาหาร
- ทานผักผลไม้ที่หลากหลายสีสันสลับกันไป โดยทานผักผลไม้อย่างน้อยมื้อละ 1 ถ้วย เพื่อให้ร่างกายยังได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน
- ดื่มน้ำประมาณ 2 ลิตรขึ้นไป เพื่อให้การเผาผลาญไขมันส่วนเกิน รวมถึงทำให้การขับสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งจะทำให้สามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีผิวพรรณสดใส
- ออกกำลังกายแบบแอโรบิกควบคู่กับแบบแอนาโรบิก โดยออกกำลังกายให้หนักในระดับที่หัวใจเต้น 60 – 80 % ของอัตราการเต้นสูงสุดในแต่ละวัย ต่อเนื่องอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน จำนวน 3 – 6 วัน ต่อสัปดาห์ เพื่อรักษาระดับการเผาผลาญที่ดีขึ้น
- นอนวันละ 8 ชั่วโมง เพราะหากนอนน้อยเกินไปร่างกายจะทำงานผิดเพี้ยนแล้วทำให้อ้วนขึ้นได้ ส่วนการนอนมากเกินไปก็ทำให้ร่างกายเผาผลาญต่ำลง
- ควบคุมน้ำหนักต่อไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน หลังจากได้น้ำหนักที่ต้องการแล้ว
โรคอ้วน คือการมีการสะสมไขมันในร่างกายมากถึงขนาดที่อาจมีผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้มีอายุสั้นลง และมีปัญหาสุขภาพเพิ่มขึ้น การพิจารณาว่าบุคคลใดอ้วนนั้นพิจารณาจากดัชนีมวลกาย ซึ่งเป็นการวัด มีค่าเท่ากับน้ำหนัก (หน่วยเป็นกิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (หน่วยเป็นเมตร) ยกกำลังสอง บุคคลที่มีดัชนีมวลกายเกิน 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตรถือว่าเป็นโรคอ้วน โดยในช่วง 25-30 กิโลกรัมต่อตารางเมตรนิยามเป็นน้ำหนักเกิน
โรคอ้วนเพิ่มโอกาสการป่วยเป็นโรคหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคหัวใจ เบาหวานและหลอดเลือดอุดตันชนิดที่ 2 ภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น มะเร็งบางชนิด และโรคข้อเสื่อม
โรคอ้วนมีสาเหตุมาจากการรับพลังงานจากอาหารมากเกิน การขาดการออกกำลังกาย และความเสี่ยงทางพันธุกรรมร่วมกันมากที่สุด แม้ว่าผู้ป่วยน้อยรายจะเกิดจากยีนหรือพันธุกรรม ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ ยาหรือการป่วยจิตเวชเป็นหลัก
สำหรับมุมมองที่ว่าคนอ้วนบางรายกินน้อยแต่น้ำหนักเพิ่มเพราะเมแทบอลิซึมช้านั้นมีหลักฐานสนับสนุนจำกัด โดยเฉลี่ยแล้วคนอ้วนมีการเสียพลังงานมากกว่าคนผอมเนื่องจากต้องใช้พลังงานมากกว่าในการรักษามวลร่างกายที่เพิ่มขึ้นคนอ้วนจึงเหนื่อยเร็วกว่าคนผอม
การจำกัดอาหารและการออกกำลังกายเป็นหลักของการรักษาโรคอ้วน สามารถปรับปรุงคุณภาพอาหารได้โดยการลดการบริโภคอาหารพลังงานสูง เช่นอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง และโดยการเพิ่มการรับใยอาหาร อาจบริโภคยาลดวามอ้วนเพื่อลดความอยากอาหารหรือลดการดูดซึมไขมันเมื่อใช้ร่วมกันกับอาหารที่เหมาะสม หากอาหาร การออกกำลังกายและยาไม่ได้ผล การทำบอลลูนกระเพาะอาหาร (gastric ballon) อาจช่วยให้น้ำหนักลดได้ หรืออาจมีการผ่าตัดเพื่อลดปริมาตรกระเพาะอาหารและความยาวลำไส้ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและลดความสามารถในการดูดซึมสารอาหาร
โรคอ้วนเป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ทั่วโลกที่สามารถป้องกันได้ โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก โรคอ้วนถูกระบุว่าเป็นปัญหาในโลกสมัยใหม่อย่างมาก (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกตะวันตก)
ลดน้ำหนัก ผู้หญิงส่วนใหญ่ เพื่อความสวยงาม ส่องกระจกเห็นเนื้อบนลำตัวพอกพูนขึ้นผิดที่ ส่วนที่เคยบางกลับหนา ส่วนที่เคยเต่งตึงกับหย่อน อยากสวยเหมือนเดิม จึงตัดสินใจลดน้ำหนัก น้อยคนนักลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ ตรงกันข้าม ผู้ชายส่วนใหญ่ลดน้ำหนักตามแพทย์สั่งเพราะความอ้วนทำให้มีความดันโลหิตสูงไขมันในเลือดสูง หรือเป็นเบาหวาน
ด้วยเหตุนี้ ผู้หญิงมักมักหาทางลดน้ำหนักเอง บางคนทำตามที่เพื่อนบอกหรือคนอื่นแนะนำ บ้างหาวิธีเอง ส่วนใหญ่ต้องลดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก บางทีอาจจะต้องออกกำลังกายประกอบบางทีใช้รายการอาหารที่กำหนดมาให้บ้างให้กินแต่ผลไม้เป็นอาหารเช้า บ้างสั่งให้กินแต่ไข่ต้มใบเดียว
บางทีให้อดอาหารเป็นบางมื้อ
ลองลดน้ำหนัก ตาม 11 วิธีที่แนะนำข้างต้นดูกันนะคะ รับรองเห็นผลลดแน่นอนไม่กลับมาโยโย่ หุ่นดีแข็งแรง และยังได้สุขภาพที่ดีเพิ่มขึ้นมาด้วยค่ะ